กลยุทธ์ Customer Retention ที่ควรทำให้สำเร็จในปี 2021 (1/3)
เขียนโดย ยิ้มเก่ง
วันที่ 16.02.2021
-
CRM คือหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการรักษาลูกค้า
-
Customer Journey ช่วยให้เข้าใจลูกค้าอย่างไร และสำคัญต่อธุรกิจแค่ไหน?
-
การสร้างจุด Touch point ที่ลูกค้าจะจำไม่รู้ลืม
หากคุณอยากอยู่รอดในสนามรบของการทำการตลาดหรือการฟาดงบที่ดุเดือดครั้งนี้
คุณต้องให้ความสำคัญกับการรักษาลูกค้าปัจจุบันและหัวใจสำคัญของการรักษาลูกค้าให้สำเร็จ
ซึ่งมีหนึ่งในตัวช่วยสำคัญอย่าง CRM ที่จะนำพาข้อได้เปรียบและส่งให้ ROI ของคุณสูงขึ้น
การรักษาลูกค้า (Customer Retention) ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้แบรนด์เข้าใจลูกค้า
และสามารถทำให้ลูกค้าอยากจะมีส่วนร่วมกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของแบรนด์
นำไปสู่การเพิ่มความภักดีในระยะยาว และลดอัตราการบอกเลิกของลูกค้าได้
เห็นได้ชัดเจนว่า ความภักดีของลูกค้าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสำเร็จทางธุรกิจ
การมีลูกค้าที่รักและเชื่อมั่นในแบรนด์คุณ ไม่ว่าคุณจะออกผลิตภัณฑ์อะไรเขาก็สนับสนุน
สิ่งเหล่านี้มันเกินเป้าไปเยอะเลย แต่ก่อนที่คุณจะได้สิ่งเหล่านี้
คุณควรจะโฟกัสให้ถูกจุด วางแผนกลยุทธ์ให้รอบคอบ เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
นี่เป็นตัวอย่างกลยุทธ์ที่สามารถนำไปปรับใช้ในการรักษาลูกค้า และขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง
"Build a Sturdy Customer Journey หรือยุคแห่งการวางแผนสร้างประสบการณ์ของลูกค้า"
ผู้ประกอบการต้องเริ่มจินตนาการแบบนี้ก่อนว่า... ลูกค้าของคุณอยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เขาต้องการอยู่
และเขาต้องการเพื่อร่วมเดินทาง ซึ่งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ร้านค้าต้องคว้าโอกาสในการเข้าไปไกด์ทางให้นั่นเอง
ซึ่งความยากจะอยู่ที่วิธีการแนะนำที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด คือการที่คุณต้องวางแผนและกำหนดเส้นทางของลูกค้าก่อน
เพราะมันจะช่วยให้คุณรู้ได้ว่า...
ทำไมเขาถึงมาหาคุณตั้งแต่แรก? คุณมีอะไรที่ไม่เหมือนใคร? ที่ทำให้ลูกค้ารู้จัก รับรู้ หรือเลือกคุณ...
(เช่น ค้นหาแบรนด์คุณผ่านออนไลน์ อ่านรีวิว เห็น Ads เห็นร้านค้า การมีส่วนร่วมของพนักงานขาย หรือลูกค้าเก่าบอกต่อ เป็นต้น)
คุณจะรู้ทันทีเลยว่า เขาตามมาออนไลน์หรือออฟไลน์? Social Media Platform ไหน? สัมนาออนไลน์? หรือเว็บไซต์? ทุกข้อล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น
หลังจากนั้นคุณก็จะสามาถวัดผลได้เลยว่า ลูกค้าเขาเลือกคุณแล้วเขาได้ในสิ่งที่เขาต้องการจริงหรือไม่?
ซึ่งข้อนี้สำคัญไม่ว่าคำตอบจะออกมาแบบไหนก็ตาม มันก็จะทำให้คุณสามารถที่จะวิเคราะห์จนรู้ถึงทางออกของข้อดี
หรือข้อเสียของปัญหาเฉพาะกลุ่มลูกค้านั้นๆได้
ซึ่งตลอดเส้นทางของลูกค้ารวมถึงจุด Touch Point ของลูกค้าที่มีต่อองค์กร มักจะเริ่มต้นครั้งแรกตอนที่ลูกค้าเริ่มมีประสบการณ์ที่ดีต่อแบรนด์
เช่น ตอนที่ลูกค้าเริ่มเห็นโฆษณา อ่านบทความ และต่อเนื่องไปถึงการดูแลลูกค้าตลอดกระบวนการตัดสินใจซื้อของลูกค้า จนถึงหลังการซื้อขายสินค้าและบริการ
Customer Journey สำคัญอย่างไร?
การวางแผนที่เส้นทางการเดินทาง (Customer Journey Map) ของลูกค้าจะช่วยให้คุณเข้าใจภาพชัดเจนว่า ตลอดระยะทางลูกค้ามีจุดสัมผัสอย่างไรกับแบรนด์คุณ เพื่อที่คุณจะเก็บฟีดแบคเหล่านั้นมาทบทวน และนำไปปรับเปลี่ยนระหว่างทางได้ จนคุณมั่นใจได้ว่า ลูกค้าจะได้รับความพึงพอใจตลอดการเดินทาง นำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าใจการเดินทางของลูกค้าอย่างแท้จริง
แต่การวางแผนของคุณยังไม่จบที่ขั้นตอนนี้... คุณต้องเพิ่มขั้นตอนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ตรงตามความต้องการของลูกค้ากว่าเดิม เพื่อเสริมสร้างความภักดีของลูกค้าในระยะยาว เพื่อให้เกิดการซื้อซ้ำและบอกต่อแบบปากต่อปาก (โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์)
“ลูกค้ามักจะเชื่อในสิ่งที่ผู้ใช้งานจริงพูดมากกว่าแบรนด์บอก”
Relate Blog
รู้ได้อย่างไร? ลูกค้าแบบไหนกระตุ้นยอดขาย (ต่อเนื่อง) แล้วได้ผลดีกว่า
Surprise ลูกค้าอย่างไรให้ร้อง WOW!
[FREE E-BOOK] How CRM Grow Business thrive today
ศัพท์ไหนบ้างที่ 'นักการตลาดในยุคดิจิทัล' ต้องรู้!!!
CRM ฉบับ smileSME Smarter goal หัวใจหลักของความสำเร็จที่วัดได้
วิธีเปลี่ยนลูกค้าขาจร ให้เป็นลูกค้าประจำ
CRM Trend for 2021 ที่ไม่รู้ไม่ได้แล้ว!!!
ตั้งรับ New Normal ปรับธุรกิจเชื่อมความสัมพันธ์กับลูกค้า
ข้อเท็จจริง "วัฒนธรรมองค์กร" (Company Culture) ทำไมถึงสำคัญ?