เขียนโดย ยิ้มเก่ง

“ผู้หญิงต้องคู่กับสีชมพู ผู้ชายก็ต้องสีฟ้า” เห็นมาตั้งแต่ความจำได้ ใครกันเป็นคนนิยาม?

 

 

ถ้าผู้หญิงอยากตัดผมเกรียน ผู้ชายอยากลองใส่เสื้อเอวลอย คุณคิดว่าอย่างไร?

 

 

โลกใบนี้หล่อหลอมให้คุณเติบโตมากับการแบ่งเพศ (Gender) ที่แน่นอนว่าแบรนด์ต่างก็ทำการตลาดตามความเชื่อเหล่านั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

 

 

ถ้าจะยกตัวอย่างที่เห็นภาพชัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าสำหรับผู้หญิง หรือ โฟมล้างหน้าสำหรับผู้ชาย (การตลาดนี้แบบนี้แหละที่เรียกว่า “การกำหนดเพศสภาพ”)

 

 

แต่ตอนนี้โลกยุคใหม่กับบริบทที่กำลังเปลี่ยนไป... หากคุณลองสังเกตเส้นที่กั้นระหว่างแฟชั่นของผู้หญิงและผู้ชายที่มันค่อยๆบางลง เนื่องด้วยหลายกระแสที่เรียกร้องถึงความเท่าเดิมทางเพศและการเปิดกว้างด้านความหลากหลายทางเพศ (LGBT) ของ GenZ (ที่ต้องการให้หยุดคิดแทนว่าเพศนี้ต้องเป็นแบบนี้หรือแบบไหน)

 

 

ซึ่งหากคุณดูจากสถิติของ GenZ มีจำนวนเกือบ 13 ล้านคน ถือเป็นสัดส่วน 22 % ของประชากรไทยเลยทีเดียว นับว่าเป็นตัวเลขที่ผู้ประกอบการหรือนักการตลาดละเลยไม่ได้ แถมต้องตีโจทย์ให้แตกถึงความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภค GenZ อีกด้วย

 

 

“ผู้หญิงใส่ก็ได้ ผู้ชายใส่ก็ดี” หรือที่เรียกว่า Genderless นั้นกำลังเป็นกระแสหลักของการทำธุรกิจที่คุณต้องใส่ใจอย่างมาก เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการให้ถึงใจของผู้บริโภคที่มีสัดส่วนมากที่สุดในอนาคต

 

 

โดยเฉพาะกับสถานการณ์ปัจจุบันหลังจากผลกระทบของโควิด-19 ที่ผู้บริโภคหันมานิยมใช้สินค้าท้องถิ่นมากขึ้น เรียบง่ายแต่มากด้วยประโยชน์ จนทำให้บรรดาผู้ประกอบการก็ต่างลดจำนวนสินค้าเดิมลงแต่เพิ่มการผลิตสินค้าที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน คุณภาพสูง ไม่มีฤดูกาล ไม่กำหนดเพศ และยั่งยืน

 

 

โมเดลธุรกิจไร้เพศไม่มีอะไรที่เข้าใจยาก แต่กลับให้ประโยชน์ต่อคุณมากมาย เช่น คุณจะใช้พื้นที่ร้านค้าน้อยลง เพราะคุณไม่ต้องแบ่งโซนชายและหญิง และผลิตเพียงแบบเดียวที่เหมาะสม แถมมีประสิทธิภาพมากกว่า นอกจากนั้นยังช่วยลดต้นทุนอื่นๆ อันมาจากการใช้วัสดุที่สิ้นเปลืองได้สูงถึง 40% อีกด้วย 

 

 

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่หากไม่ทำจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากมีหลายแบรนด์ที่เริ่มรับมือกับเรื่อง Genderless ได้แล้ว จนได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างเกินคาด เช่น Gucci ที่ได้สร้างมาตรฐานแบรนด์หรูกับ ‘คอลเลคชันใหม่ไม่ระบุเพศในชื่อ MX’ ในการนำเสนอลุคต่างๆที่เป็นกลางทางเพศ ไม่ยึดติดความคิดแบบเดิม แต่ลูกค้าสามารถที่จะเลือกสินค้าได้อย่างสนุกสนานกับการแต่งตัวได้แบบไร้ขอบเขต

 

 

ดังนั้นถ้าคุณอยากเป็นแบรนด์ที่ถูกจริตกับผู้บริโภคที่เป็นกำลังซื้อหลักของคุณในอนาคต ที่จะนำไปสู่การเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจ คุณต้องติดตาม Insight ของ Generation Z อย่างใกล้ชิด ซึ่งตอนนี้พวกเขาให้ความสนใจในเรื่องของ Genderless เป็นสิ่งสำคัญที่สุดนั่นเอง