
ความรู้สึกขาดแคลน (เทียม) ที่นักการตลาดควรใช้เป็นกลยุทธ์!
เขียนโดย ยิ้มเก่ง
วันที่ 12.05.2021
ในเมื่อหลายแบรนด์ระดับโลก ทำให้ผู้บริโภค “คลั่งรัก” ในแบรนด์และสินค้ามากขึ้นได้ ทำไมคุณไม่ทำบ้าง?
จริงอยู่ที่ว่า ร้านค้าที่ดีต้องมีลูกค้า... หลายแบรนด์จึงมักจะมีความคิดแรกที่ว่า ทำอย่างไรก็ได้ขอเพียงแค่ให้ลูกค้ามาเห็นร้านค้าหรือเข้ามาดูสินค้าฉันเยอะๆก่อนก็พอ
แล้วส่วนมากมันก็สมหวังอย่างง่ายดายที่ว่าพวกเขามีคนจำนวนหนึ่งเข้ามาดูร้านค้าคุณจริงๆ แต่พวกเขาเลื่อนดูด้วยความรู้สึกว่า ดูหน่อยก็ได้.. ใจเย็นราวกับไม่ได้มีความตื่นเต้นกับสินค้าคุณแม้แต่น้อย ถ้าเป็นแบบนี้คุณว่าดีแล้วหรอ? (สำหรับเราว่ามันน่าเสียดาย)
เพราะอะไรรู้ไหม? ลูกค้าเขาคิดว่าฉันมีเวลามากพอไม่ได้รีบไปไหน ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาจะทำคือการเปิดร้านนู่นมาเทียบร้านนี่สลับไปดูร้านนู่น ซึ่งแน่นอนว่าร้านค้าของคุณก็จะกลายเป็นแค่หนึ่งในตัวเลือกของพวกเขา จากการเปรียบเทียบในด้านของราคาหรือตัวเลือกการจัดส่ง เป็นต้น
มากไปกว่านั้น อยากให้เปลี่ยนความคิดที่ว่า การเปิดร้านออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ คือ การแย่งชิงความสนใจของลูกค้ามาให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการฟันราคาแข่งกับตลาดจนต่ำ โดยอาจจะลืมไปว่ามันไปส่งผลกระทบให้ส่วนต่างของกำไร และยังลดคุณค่าของภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ลงไปอีกด้วย
แต่ในทางกลับกัน ถ้าคุณ “เพิ่มตัวกระตุ้น” เพื่อเร่งความรู้สึกของลูกค้ามันจะช่วยให้คุณไม่ต้องลงไปอยู่ในสงครามของการแข่งขันด้วยราคาทันที “ความรู้สึกเร่งด่วน” จะกลายเป็นตัวกระตุ้นที่มีประสิทธิภาพในร้านค้าออนไลน์ของคุณ
แต่ทั้งนี้คุณต้องทำมันให้ถูกวิธีเท่านั้น ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณไปดูก่อนว่า เหตุใดความรู้สึกเร่งด่วนจึงสำคัญในการสร้าง Conversion ของร้านค้าออนไลน์ในปัจจุบัน
คุณเชื่อเรื่องของทฤษฎี “การสร้างความรู้สึกขาดแคลน(เทียม)” ไหม (Artificial scarcity) ทฤษฎีที่ทำให้นักช้อปหลงกลไม่ว่าจะแกร่งแค่ไหนก็ตาม เพราะมันจะทำให้นักช้อปตัดสินใจได้เร็วขึ้นหรือเรียกว่าหุนหันพลันแล่นเลยก็ว่าได้ จากการใช้เทคนิคการสร้างคำหรือความหายากแบบปลอมๆขึ้นมา (โดยที่เขาจะลืมความรู้สึกว่าต้องหาข้อมูลเยอะๆไปเลย)
เพราะธรรมชาติของมนุษย์ มักจะอยากได้อะไรที่ “ยากหรือมีน้อย” ที่อ่านปุ๊บต้องทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าต้องรีบไปซื้อ! ไม่ว่าจะต่อคิวยาวแค่ไหนฉันต้องได้มาครอบครอง! แต่ในความเป็นจริงอาจจะมีทั้งที่เป็นแบบนั้นและไม่เป็นแบบนั้นสะหมด เช่นคำว่า Limited, Seasonal Only, หมดแล้วหมดเลย, ขายแค่ 3 วันเท่านั้น, เหลือแค่1ชิ้นในสต็อก เป็นต้น จนทำให้เทคนิคนี้ถูกใช้อย่างมากในหลายธุรกิจและอยู่ในพื้นฐานคล้ายๆกัน
แต่จำไว้ว่า เทคนิคนี้ต้องถูกใช้ให้เหมาะสมและถูกจังหวะ เพราะลองคิดว่าดูว่า ถ้าเข้าไปทีไรก็เจอแต่คำว่า 1 Left in Stock ลูกค้าก็คงรู้สึกไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
ส่วน 7 วิธีที่แบรนด์หรือร้านค้าออนไลน์สามารถเอาไปใช้ได้ง่าย ไปตามต่อในฉบับหน้าค่ะ
Relate Blog
ขายของแพงอย่างไรให้คนแย่งกันซื้อ!!
History of Loyalty
ว่าด้วยเรื่อง CRM ไม่ต้องใช้งบมากมายก็ทำได้
Business Insight ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SME ประหยัดเวลาชีวิต
คิดจะ Personalized คิดถึง CRM
CRM คืออะไร? ธุรกิจแบบไหนต้องใช้ระบบ CRM
10 เคล็ดลับ เพิ่มยอดขายช่วงสิ้นปีอย่างมีชั้นเชิง!!!
Customer Lifetime Value คืออะไร (สำคัญแค่ไหนต่อธุรกิจคุณ)
กลยุทธ์ Customer Retention ที่ควรทำให้สำเร็จในปี 2021 (1/3)