หา “กลุ่มเป้าหมาย” ให้เจอก็เป็นสุข
เขียนโดย ยิ้มเก่ง
วันที่ 11.09.2020

 

 

สินค้าฉันไม่ดีตรงไหน? หมดเงินโฆษณาไปตั้งเยอะไม่เห็นได้อะไรคืนมา 
 
 
ลองนึกภาพตามว่า คุณไปขายหวีกับคนหัวล้าน กับ คุณไปขายคอร์สลดน้ำหนักกับผู้หญิงที่กำลังจะแต่งงาน ลองคิดตามดูว่า ใครมีโอกาสซื้อสินค้ามากกว่ากัน 
 
 
คุณเป็นใครในตัวอย่างดังกล่าว? ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่กำลังพยายามขายของกับคนที่ไม่อยากจะได้สินค้าของคุณเลย หากเป็นเช่นนั้น หยุดตอนนี้! ก่อนจะท้อไปมากกว่าเดิม เพราะขายให้ตายคุณก็ขายไม่ได้หรอก 
 
 
อยากขายอะไรก็ขายได้ไหม? ดังนั้นคุณลองเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า กลุ่มเป้าหมายที่เขาจะสนใจสินค้าของคุณคือใคร วันนี้เราจะมาช่วยคุณหาวิธีว่ากลุ่มเป้าหมายแบบนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร
 
 
 

เริ่มต้นจากคุณจะขายอะไร ? (ถามตัวเอง)

ฉันจะขาย..  เช่น น้ำผลไม้สกัดเย็นขวดล่ะ 80 บาท
 
 

กลุ่มเป้าหมายของคุณเป็นใคร? (คุณจะสื่อถึงใคร)

หา Persona และ Pain Point ให้เจอ เช่น ฉันจะขายน้ำผลไม้สกัดเย็นให้ได้ กับ ผู้หญิงสายเฮลตี้ที่มีความกังวลเรื่องรูปร่างและความอ้วน ชอบไปออกกำลังกาย อัปเดตเทรนด์ชุดออกกำลังกายใหม่ๆเสมอ ชอบเสพข่าวไลฟ์สไตล์ของดารา ถ้าให้ดีที่สุดคุณต้องระบุไปเลยว่า อายุประมาณเท่าไหร่? (แล้วคุณก็เอาไปรวมกับข้อถัดไป)
 
 

กลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่ที่ไหน? (คุณจะขายอย่างไร)

วิเคราะห์แพลตฟอร์มให้ดีว่าช่องทางไหนจะทำให้สารที่คุณจะส่งไปเกิดประสิทธิภาพมากทีสุด เช่น กลุ่มเป้าหมายอาศัยอยู่ในใจกลางเมืองกทม. ทำงานอยู่แถว BTS อารีย์ ชอบไปออกกำลังกายแถวเซ็นทรัลลาดพร้าว ชอบโพสรูปออกกำลังกายบ่อยๆบนอินสตราแกรม
 
 

ทดลองว่าถูกกลุ่มเป้าหมายไหม? (เพื่อวัดผล)

หากคุณได้กลุ่มเป้าหมายตั้งต้นแล้วนั้น คุณก็สามารถไปลงโฆษณาตามข้อมูลด้านบน ก็จะช่วยให้คุณได้กลุ่มลูกค้าที่มีโอกาสที่จะซื้อสินค้าของคุณมากขึ้น แล้วอาจจะเป็นกลุ่มลูกค้าของคุณจริงๆ (แต่บางครั้งกลุ่มเป้าหมายแรกก็อาจจะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงของคุณก็ได้)
 
 
 
 
เพราะกลุ่มเป้าหมายไม่ใช่แค่คนที่คุณจะรู้จัก แต่คุณจะต้อง "เข้าใจ" ว่าในวันๆหนึ่งเขามีพฤติกรรมอย่างไร ฟังดูมันอาจจะเหมือนยาก แต่ถ้าได้ลองเริ่มคิดจริงๆแล้ว มันคุ้มค่าเหนื่อยที่จะได้มา เพื่อที่คุณจะเป็น "แบรนด์ที่ถูกใจ ถูกที่ และถูกเวลาของลูกค้ามากที่สุด"
Back
Share