CRM คืออะไร และทำไมจึงสำคัญสำหรับงาน Event?

• จัดการข้อมูลผู้เข้าร่วมงานได้อย่างเป็นระบบ เก็บรวบรวมข้อมูล ประวัติการเข้าร่วมงาน ความสนใจเชิงลึก และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละธุรกิจ
• ติดตามผลการดำเนินงานได้ง่าย วัดผลลัพธ์ของงาน Event เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมงาน ยอดขาย การตอบรับจากผู้เข้าร่วม
• สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ผ่านแอปฯ สร้างฐานลูกค้าที่มั่นคง และส่งเสริมการกลับมาใช้บริการซ้ำ เช่น การอัปเดตกิจกรรมด้าน Loyalty ต่างๆ (คะแนนสะสม หรือโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้ากลุ่มต่างๆ)
• เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน อัตโนมัติการทำงานซ้ำๆ เช่น การส่งอีเมลหรือ E-mail เชิญ การติดตามการลงทะเบียน รวมถึงการประเมินความพึงพอใจต่างๆ
• พัฒนาและวางแผน Event ครั้งถัดไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ร้านค้าในขายไหนที่ดึงดูดให้คนเข้าร่วมหรือปิดยอดขายได้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้เรารู้สิ่งเหล่านั้นได้จากข้อมูลจริงๆ ที่ไม่ได้คิดไปเอง

Feature ของ CRM ที่สำคัญสำหรับงาน Event

• การจัดการฐานข้อมูลลูกค้า: เก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้าแบบครบวงจร และสามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
• การติดตาม Lead: ติดตามความคืบหน้าของลูกค้าที่สนใจงาน Event ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการปิดการขายตลอด Life-time value ของลูกค้าแต่ละคน หรือตามกลุ่ม
• การสร้างแคมเปญ: สร้างแคมเปญการตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย เช่น E-mail marketing, SMS marketing
• การวิเคราะห์ข้อมูล: Dashbaord ติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลภายในวันงาน เพื่อวัดผลลัพธ์ของงาน Event แบบ Real-time และ Report ภาพรวม สำหรับปรับปรุงกลยุทธ์ในอนาคต
• การทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันอื่นๆ: เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันอื่นๆ ได้ง่าย เช่น Line, Google Calendar เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

Case study การใช้งาน CRM ในงาน Event

• การจัดการการลงทะเบียน: ใช้ CRM เพื่อสร้างแบบฟอร์มลงทะเบียนออนไลน์ เก็บรวบรวมข้อมูลผู้เข้าร่วมไว้เป็นระบบที่เดียว ทุกคนในทีมเรียกดูได้ง่ายๆ และส่งอีเมลยืนยันการลงทะเบียน
• การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เข้าร่วมงาน: ส่งอีเมลหรือ SMS ขอบคุณหลังลงทะเบียน เข้าร่วมงาน หรือจบงาน Event รวมถึงอัปเดตข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมในครั้งต่อไป
• การวิเคราะห์ผลตอบรับ: เก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เข้าร่วม เพื่อนำมาปรับปรุงการจัดงานครั้งต่อไป
• การสร้างกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย: แบ่งกลุ่มลูกค้าตามความสนใจ เพื่อส่งเสริมการขายสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น แบ่งตามความสนใจ ซึ่งอาจจะเกิดจากการเก็บข้อมูลผ่านเว็บไซต์ตอนลงทะเบียน, ข้อมูลจากการซื้อสินค้า ช่องทาง Social media ที่เจอแบรนด์ หรือแบบสอบถามอื่นๆ เป็นต้น

สรุป

แนะนำเพิ่มเติม:

• เลือก CRM ที่เหมาะสมกับขนาดและ Goal ของธุรกิจ โดยสามารถเริ่มจาก Budget, หา Feature & Function ที่ตอบโจทย์ และระดับความยาก-ง่ายที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าของคุณในการใช้งาน
• Training พนักงานของคุณให้ใช้งาน CRM เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากระบบ รวมถึงถาม-ตอบข้อสงสัยของลูกค้าได้
• Monitoring และปรับปรุงระบบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ CRM สามารถตอบสนองความต้องการของธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ CRM ในงาน Event สามารถสอบถามได้เลยนะคะ