เมื่อสีไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ที่ช่วยในการจดจำ แต่กลายเป็นตัวกลางสื่อสารสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นต่อมการรับรู้ของผู้คนในปี 2021 ที่ตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความซับซ้อน ความเหนื่อยหน่าย หรือภาวะการหมดไฟจากบาดแผลของความกลัววิกฤตระดับโลกที่ยังคงเหลือร่องรอยอยู่

 

แต่ สี จะเข้ามาสะท้อนความรู้สึก จังหวะในชีวิต และสร้างพลังใจ ช่วยให้โลกนั้นน่าอยู่และมีความหมายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านของการทำธุรกิจที่สีจะเข้าไปเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการสื่อสาร กลยุทธ์ และเจตนาของแบรนด์ให้ออกไปได้อย่างชัดเจนมากที่สุด

 

ดังนั้น 7 สีที่เรากำลังจะพูดถึงถือเป็นเครื่องมือที่คู่ควรจะนำไปใช้ประโยชน์ในการออกแบบเพื่อให้ตอบสนองจิตใจและดึงดูดการตัดสินใจของลูกค้าในตอนนี้ตลอดจนปีหน้าได้เป็นอย่างดี

 

 

ถือเป็นสีที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 เปรียบเสมือนการถ่ายทอดความรู้ที่ต้องการได้รับการเปิดเผย ให้ความรู้สึกย้อนยุคแบบล้ำยุค จากความเรียบง่าย และความไม่ปรุงแต่ง 

 

ซึ่งนักออกแบบมักจะใช้เฉดส้มอมชมพูนี้จับคู่กับธรรมชาติ เช่น IKEA โปแลนด์ ภายใต้แนวคิด IKEA Home of Tomorrow ผนังและท่อน้ำสีชมพู บรรยากาศที่เป็นมิตร และจะทำให้สิ่งมีชีวิตมีชีวิตชีวามากขึ้น

 

 

ดั่งคำที่ว่า “A blank page for a new beginning” ที่ Li Edelkoort ได้กล่าวไว้ นอกจากเรื่องของการเริ่มต้มใหม่แล้ว ยังหมายถึงการเกิดใหม่ แสงสว่าง การเว้นพื้นที่ว่างของการคิดทบทวน และความเป็นห่วงเป็นใยต่อผู้อื่น ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความหมายเชิงบวก

 

จึงทำให้แบรนด์ใหญ่อย่าง Louis Vuitton ใช้สีนี้เพื่อสร้างความหมายในโครงการช่วยเหลือทางการฉุกเฉินผ่าน Louis Vuitton Foundation ที่ล่าสุดแบรนด์เผยโฉมชุดกาวน์ทางการแพทย์ที่จะแจกจ่ายไปให้บุคลากรทางการแพทย์ และอีกแบรนด์สำคัญอย่าง Prada ในคอลเลคชัน Spring/Summer 2021 ที่ตั้งใจออกแบบใหม่มาให้มีความเรียบง่ายมากขึ้น สื่อถึงความหมายของการใช้งานได้จริงและยาวนาน 

 

 

สีแห่งกล้องฟิล์ม ฟิลเตอร์ย้อมสีต่างๆ จนถูกจัดให้เป็นสีตัวแทนของโลกดิจิทัลล้ำสมัย (รูปแบบสไตล์นีออน) ตัวอย่างเช่น เอ็มวีเพลง How you like that ของ Blackpink ที่ใช้การจัดแสงระยิบระยับสีม่วงจนดูทันสมัยขึ้นมาทันตาเห็น หรือจะนำสีม่วงไปจับคู่กับเทคโนโลยี AR หรือ VR บนสื่อโซเชียลและเกม eSport ก็ได้ประสิทธิภาพที่ดีเช่นกัน

 

นอกจากนี้สีม่วงเฉดนี้ ยังสื่อถึงความแข็งแกร่งและความเท่าเทียมสำหรับทุกเพศสภาพ จนสำนักงาน Mix Trend และ Color Marketing Group ระบุว่าในปี 2021 สีนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนสู่ความทันสมัยด้านอารยธรรม และสิทธิมนุษยชน เช่น ผู้หญิงที่แข็งแกร่งยืนหยัดได้ด้วยตนเอง (แม้ว่าผู้หญิงจะมีสไตล์ Feminism หรือผู้ชายแบบ Masculine ก็ตาม) 

 

 

ตัวแทนแห่งความสงบ สุขภาพ การปรนนิบัติรักษา และการสร้างความผ่อนคลายจากวิกฤตรอบตัว หรือพูดได้ว่า “สีเขียวสีแห่งชีวิต” (The Colour of life) 

 

แน่นอนว่าหลายแบรนด์ชั้นนำยกให้สีนี้เป็นสีประจำปี และมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเจนจากการปลูกต้นไม้และใช้สีในส่วนต่างๆในอาคาร เพื่อให้ผู้ที่สัมผัสได้รู้สึกถึงการหายใจที่ปลอดโปร่งขึ้น ถือว่าเป็นสีที่ให้ความรู้สึกเรียบง่ายและอบอุ่นได้ในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกระแสที่มาแรงมากอย่าง “วีแกน” (หรือออแกนิก) ก็เลือกใช้สีนี้เป็นตัวแทนของผู้ที่ใส่ใจและรักสุขภาพเช่นกัน

 

 

หลายแบรนด์ดังอย่าง Nestle, Coca-Cola และ McDonalds หันมาให้ความสนใจกับเฉดสีนี้อย่างมาก เพราะสีฟ้าถูกยกให้เป็นตัวแทนของสีน้ำมหาสมุทร การรีไซเคิล และการลดขยะพลาสติกทางทะเล

 

จึงจะเห็นได้ว่าแบรนด์อย่าง Adidas ได้ใช้เส้นใยสีฟ้าในรองเท้ารุ่นที่มีการรีไซเคิล และ Starbucks ที่นำสีฟ้ามาเป็นคอลเลคชันประจำปีตั้งแต่ 2018 จึงทำให้สีฟ้าเฉด Cyan Blue กลับมากระตุ้นความรู้สึกของผู้คนได้อย่างดีอีกครั้ง 

 

มากไปกว่านั้นอาคาร SMTown Coex Artium ในเกาหลีใต้ก็ได้เลือกใช้สีฟ้าเช่นกัน ในการแสดงจุดยืนด้านเทคโนโลยีด้านความบันเทิงจากการใช้ภาพเคลื่อนไหวของคลื่นน้ำทะเล จนทำให้สีฟ้ากลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมความบันเทิงรูปแบบใหม่ไปในทันที 

 

 

ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปกี่ปีความมินิมัลลิสต์ก็ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน สีเทาคือสีโทนกลางที่หลายอุตสาหกรรมนำไปปรับใช้ โดยเฉพาะการนำไปตกแต่งห้องรับรอง หรือพื้นที่สำนักงานที่ต้องการให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายและได้พักสายตาจากสีแสง หรือเรียกได้ว่าให้ความรู้สึกอบอุ่นแห่งอนาคต (Warm sense of the Future) 

 

ส่วนใหญ่จะนำสีนี้ไปใช้เป็นพื้นผิวอาคารที่ฉาบด้วยด้วยปูนยิปซัมสีเทาอ่อนผิวด้าน ปูนพลาสเตอร์ตามบันไดโค้ง และสีอาคารที่มีโครงสร้างอิสระต่างๆ ที่จะช่วยให้ลูกค้าหรือผู้ที่อยู่อาศัยได้สัมผัสกับแสงธรรมชาติ เช่น บ้าน Stairway House ในย่านชินจูกุของโตเกียว เป็นต้น

 

 

 

สีส้มแสดเป็นสีแห่งการสร้างพลังใจ (มองเผินๆจะคล้ายกับสีแดง) จึงจะทำให้คุ้นและพบบ่อยครั้งตามเทศกาลเช่น ตรุษจีน วาเลนไทน์ เป็นต้น จึงเหมาะอย่างมากที่แบรนด์จะนิยมนำไปใช้เป็นจิตวิทยาค้าขายและดึงดูดการตัดสินใจของลูกค้า ด้วยจุดเด่นที่สีนี้สามารถกระตุ้นต่อมการรับรู้ได้เป็นอย่างดี แถมสีแสดยังสามารถนำไปจับคู่กับสีอื่นได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะไปจับกับโทนที่เข้มสูงหรือสีอ่อนก็ทำได้ดีเลยทีเดียว 

 

นอกจากนี้สีแสดยังถูกยกให้เป็นสีที่ถ่ายทอดความสุขสนุกสนานและทรงพลังสำหรับธุรกิจออนไลน์และสื่อดิจิทัลอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ดร.คาซูโอะ ยาโนะ นักพัฒนาของแบรนด์ Hitachi เลือกใช้ใช้ธีมสีแสดเป็นสีหลักเพื่อดึงดูดสายตาผู้คนภายในงาน “สร้างความสุขจากเทคโนโลยี AI ในการประเมินความสุขส่วนบุคคลด้วยอุปกรณ์ติดตาม” (Dr. AI’s prescription for happiness and productivity) นั่นเอง

 

 

 

หากรู้แบบนี้แล้ว คุณต้องเตรียมตัวก่อน.. ไม่ต้องรอให้ปี 2021 เดินทางมาถึง...

การออกแบบด้วยสีที่ใช่ ฟังก์ชันที่มากด้วยประโยชน์ และประสบการณ์ที่ส่งตรงถึงใจ เพิ่มเติมคือ “ความยั่งยืน” ส่วนผสมเหล่านี้แหละที่จะช่วยให้ธุรกิจคุณกลมกล่อมมากยิ่งขึ้นในปีข้างหน้า นำไปสู่ยอดขายที่เติบโตอย่างไม่น่าเชื่อแน่นอน!!!

 

 

 

อ้างอิงจาก TCDC