จุดวัดผล (ที่ใช่) ในช่วงวิกฤต 'วิเคราะห์คู่แข่ง เข้าใจลูกค้า'
เขียนโดย ยิ้มเก่ง
วันที่ 19.05.2021
สภาวะที่ธุรกิจคือสงคราม คงหมดยุควิเคราะห์แค่คู่แข่งอีกต่อไป
จริงอยู่ที่ว่า การรู้ว่าเขาทำอะไรดีไม่ดีเพื่อที่เราจะได้ป้องกันไม่ให้เกิดกับธุรกิจของเรา
แต่ทั้งนี้การวิเคราะห์คู่แข่งอย่างเดียวจะได้อะไร ถ้าไม่ทำของเราให้ดีขึ้นด้วย เพราะบางครั้ง ‘แค่ทำของเราให้ดีกว่าก็พอแล้ว’
การวิเคราะห์คู่แข่งและลูกค้า จึงเป็นองค์ประกอบหลักที่จะทำให้การตลาดยุคดิจิทัลมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะข้อมูลเชิงลึกจะช่วยให้แบรนด์จัดการกับความท้าทายของตลาดในปัจจุบัน และสร้างจุดขายที่แตกต่างจากเจ้าอื่นได้
ซึ่งเราได้แบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอนดังนี้
1 Traffic Analysis
หากคุณเป็นธุรกิจที่ใช้หน้าเว็บไซต์เป็น Landing Page หรือปิดการขาย แน่นอนว่าการตรวจดสอบ Web Traffic สำคัญ เพราะมันจะทำให้คุณรู้จำนวนคนที่เข้าชมของพวกเขาว่ามากน้อยแค่ไหน แล้วเป็นคนเดิมๆหรือไม่ซ้ำหน้า รวมไปถึง bounce rate ต่างๆ ซึ่งมันจะทำให้คุณรู้ได้หลายอย่าง เช่น ผู้เยี่ยมชมส่วนใหญ่ใช้ช่องทางไหนในการมายันเว็บไซต์คุณ เป็นต้น
2 Social Media
การวิเคราะห์โซเชียลมีเดียของคู่แข่ง จะบอกคุณว่า พวกใช้ช่องทางไหนในการโฆษณา คอนเทนต์หรือข้อความแบบไหนที่ได้รับการตอบรับดีที่สุด มันจะช่วยให้คุณเจอช่องว่างในการวางกลยุทธ์ของพวกเขา ซึ่งมันจะเปิดโอกาสให้แบรนด์คุณใช้จุดนี้สำหรับเพิ่ม Engagement ในส่วนที่เขาขาดได้ทันที
คุณสามารถที่จะใช้ประเด็นนั้นพูดคุยสร้างคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์และบริการของคุณ นำไปสู่การปรับแต่ง Content Strategy และ Value Proposition ของคุณได้
3 Business Insight
ธุรกิจจะเดินหน้าต่อได้อย่างไรถ้าคุณยังไม่รู้ภาพรวมของร้านค้าตัวเอง ดังนั้นการดูวิเคราะห์ข้อมูลการขายและสรุปผล ไม่ว่าจะด้านยอดขายสินค้าหรือจำนวนผู้ซื้อทั้งหมดในร้านค้า จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ทำให้คุณรู้แนวโน้มของธุรกิจและ ‘ปรับแผนการขายได้ทันท่วงที’
ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณรู้ ‘ภาพรวมการซื้อสินค้า’ สินค้าไหนเป็น Top Product หรือ Top Category ในเวลาเดียวกัน คุณก็สามารถที่จะลงทุนได้แม่นยำยิ่งขึ้นกับสินค้าที่ทำกำไรให้คุณนั่นเอง
4 Customer Insight
การวิเคราะห์ที่ชาญฉลาดคือการเริ่มวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเพศหรืออายุ รวมไปถึงพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าแต่ละคนในรูปแบบต่างๆ ล้วนมีประโยชน์ทั้งสิ้น เพราะมันจะช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงและนำไปสู่การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดในระยะยาว
ตัวอย่างเช่น การมี ‘ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า’ จะช่วยให้คุณสร้างความผูกพันกับลูกค้าได้ถูกคน เพราะคุณรู้ว่าคนไหนเป็นลูกค้าที่ซื้อมากที่สุด ซื้อบ่อยที่สุด หรือมี LTV สูงที่สุด ซึ่งคุณสามารถที่จะตั้ง Tier ให้สิทธิพิเศษจากพฤติกรรมต่างๆ เหล่านั้นได้ แน่นอนว่าจะกระตุ้นให้เขาตัดสินใจได้ง่ายขึ้นและเพิ่มโอกาสที่เขาจะไม่นอกใจจากแบรนด์คุณ
5 Content Analysis
แน่นอนว่า หลังจากคุณส่งมอบคอนเทนต์ต่างๆออกไปจากการวิเคราะห์จากคู่แข่งและของคุณอย่างครอบคลุมแล้ว การเข้าไปประเมินว่าแท้จริงแล้ว Topic แบบไหนมัน Good fit หรือประสิทธิภาพต่ำกับแบรนด์คุณ
ซึ่งคุณจะต้องหาสาเหตุว่าทำไมมันถึงปังและทำไมมันไม่ปัง เพราะบางทีคุณอาจจะค้นพบช่องว่างเกี่ยวกับคอนเทนต์ของตัวเอง เช่น คำถามที่พบบ่อยๆ หรือบางทีจะรู้ว่าเขาชอบเนื้อหาแบบยาวๆหรือสั้น ซึ่งมันจะมีผลต่อการนำเสนอของรูปแบบว่าควรจะเป็นแบบ Infographic Video หรือรูปภาพสำหรับแคมเปญถัดไป
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณต้องทำประจำ เพราะมันคือการเพิ่มแต้มต่อก่อนที่คุณจะออกไปสนามรบ กลยุทธ์และTools ที่แตกต่างจะบอกถึงจุดแข็งที่ใครก็สู้ไม่ได้!
เรามี Tools ต่างๆ ช่วยเรื่อง Business Insight และ Customer Insight ได้แบบสะดวกสบาย เพราะ Insight คือข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์และตีความมาแล้ว (ผ่าน Dashboard) หรือจะเรียกว่าเป็นข้อมูลที่ปรุงสุกมาแล้วพร้อมรับประทาน ในที่นี้คือ smileSME ระบบCRM หรือการทำ CRM ซึ่งตอนนี้ให้ทดลองใช้ฟรี! อย่าปล่อยให้ธุรกิจคุณพลาดโอกาสครั้งนี้ไป
คลิกลงทะเบียนที่นี้!!!! https://smilefokus.com/request
Relate Blog
CRM สร้างผลดีต่องาน Marketing อย่างไร?
ขายเพิ่มตอนไหนขายได้แน่นอน
History of Loyalty
สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืนด้วยแอปพลิเคชัน "smileCULTURE"
3 กลยุทธ์ มัดใจลูกค้าอย่างไรก็อยู่หมัด
"ประสบการณ์ของลูกค้า" คืออะไร? สร้างอย่างไร?
ตั้งรับ New Normal ปรับธุรกิจเชื่อมความสัมพันธ์กับลูกค้า
ว่าด้วยเรื่อง CRM ไม่ต้องใช้งบมากมายก็ทำได้
5 Mega Trends ของธุรกิจ 2020-2021