
สีถูกจริต ช่วย ‘สร้างแบรนด์’ และ ‘เพิ่มยอดขาย’
เขียนโดย ยิ้มเก่ง
วันที่ 15.10.2020
พวกคุณเชื่อเรื่อง สีถูกจริต ทำอะไรก็ขึ้น จะขายอะไรก็เริ่ดไหม?
นักออกแบบกราฟฟิกหลายคนย่อมรู้กันดีอยู่แล้วว่า สีมีบทบาทสำคัญหรือเรียกว่าเป็นองค์ประกอบหลักในการออกแบบให้แคมเปญต่างๆ ออกมาประสบความสำเร็จได้ แต่! เรื่องนี้นักการตลาดก็ควรจะรู้ด้วยเช่นกัน ว่าองค์ประกอบของสีที่ดีนั้น ต้องมีความเฉพาะเจาจงและกระตุ้นอารมณ์บางอย่างกับลูกค้าได้
“เพราะ สี คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างการจดจำให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี”
นอกจากนั้นสีต้องมีความเกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ (CI) และจูงใจให้เกิดพลังการซื้อด้วย ดังนั้นวันนี้เราจะแชร์ 10 สีที่ว่ากันว่า ‘ช่วยเพิ่มยอดขายและกระตุ้นความต้องการของลูกค้าได้ง่ายๆ’ แถม Tips วิธีเลือกใช้ด้วย!!!

1 สีแดง
สีที่ถูกยอมรับว่าเป็นสีที่มี ‘อิทธิพลด้านราคา’ และเป็นสีที่มีความเป็นสากล เป็นสีที่ทำให้หลายคนหยุดดูได้! แล้วยังเป็นสีที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดความเร่งรีบได้อย่างดี หรือที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนว่า “หากไม่ซื้อตอนนี้อาจจะพลาดโปรโมชั่นนี้ไปได้” จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมสีแดงถึงนิยมใช้ทำการตลาดบ่อยครั้ง หรือสำหรับใครที่คิดอยากจะล้างสต็อกสินค้า แนะนำให้ใช้สีแดงได้ผลดีอย่างแน่นอน
2 สีน้ำเงิน
ถ้าแบรนด์ของคุณต้องการ ‘เพิ่มความน่าเชื่อถือและอยากได้รับความไว้ใจจากลูกค้า’ สีน้ำเงินนั้นตอบโจทย์ที่สุด เพราะนอกจากมีกลิ่นอายของความเท่ห์อีกทั้งยังเป็นสีที่ทั่วโลกยอมรับ (ยอดฮิตทั้งผู้หญิงและผู้ชาย) โดยสีน้ำเงินยังสามารถที่จะใช้ร่วมกับสีต่างๆ ได้แล้วผลลัพธ์ก็ยังออกมาดีเสมอ อารมณ์ของสีนั้นจะให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และรักสันติในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะ Facebook หรือ PayPal ก็ใช้สีนี้
3 สีเขียว
เป็นสีที่มีประโยชน์มากสีหนึ่งหรือจะเรียกว่า ‘สีอเนกประสงค์’ เพราะเป็นสีที่มีความอบอุ่น รักษ์ธรรมชาติ และดึงดูดใจให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกพึงพอใจ แล้วยังเป็นสีที่แสดงถึงสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และความปรารถนาดี ทั้งนี้สีเขียวยังเป็นตัวแทนของความสร้างสรรค์ (เมื่อใช้เป็น Text จะทำให้คนจดจำข้อความได้ง่ายขึ้น) อีกด้วย
4 สีส้ม
สีแห่ง ‘พลังงานและความกระตือรือร้น’ ที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดความสนใจแบบเป็นมิตร เป็นสีที่มีความสนุกสนานและมีสไตล์ ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกราวกับว่าบริษัทนี้ทันสมัย แต่อย่าใช้ในภาพรวมที่มากเกินไป เพราะบางครั้งสีนี้อาจจะทำให้สินค้าดูมีราคาถูกก็ได้ และไม่เหมาะสมกับการเอาไปใช้กับของมูลค่าแพง
5 สีเหลือง
สีนี้ทั้ง ‘ทรงพลังและอันตรายที่สุด’ ในเวลาเดียวกัน สีเหลืองมักจะใช้เพื่อดึงดูดความสนใจและทำให้ลูกค้ามั่นใจในความสามารถของคุณ แล้วยังเป็นสีที่ช่วยกระตุ้นให้คนมองโลกในแง่บวกอีกด้วย ถือเป็นสีที่สื่อถึงความสุขได้ดีที่สุด ส่วนมากนักการตลาดจะชอบใช้สีนี้ปลุกพลังในตัวสินค้าหรือแบรนด์ รวมถึงเป็นสีที่เด็กๆ ชื่นชอบ (แล้วก็จะเป็น top of mind ของผู้ปกครองในการเลือกซื้อให้ลูกอีกด้วย)
แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นสีที่เตือนภัยได้ผลมากเลยทีเดียว เช่น ป้ายจราจรต่างๆ ป้ายห้ามต่างๆ ดังนั้นไม่ควรที่จะใช้ในปริมาณที่มาดจนเกินไปเช่นกัน
6 สีชมพู
หากประเภทธุรกิจหรือสินค้าของคุณมี Target เป็นเด็กผู้หญิง สีนี้แหละที่จะช่วยแย่งชิงความสนใจได้อย่างดี เพราะสีนี้เต็มไปด้วยความสดใส สนุกสนาน และมีความเป็นผู้หญิงมากที่สุด แต่ถ้าคุณอยากจะให้ภาพหรือแคมเปญมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น แนะนำให้ใช้พื้นหลังสีเหลืองเพื่อจะขับให้มองเห็นสินค้าได้ชัดเจนมากขึ้น
7 สีม่วง
ถือเป็นสีตัวแทนแห่งราชวงศ์ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการส่งมอบ ‘ความหรูหราและสง่างาม’ ให้กับสื่อหรือแคมเปญการตลาดของคุณ แต่สีอาจจะไม่ค่อยช่วยให้แบรนด์โดดเด่นมากสีอื่นๆสักเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ยังเหมาะกับสินค้าประเภทความงามและเสริมสวย เช่น สินค้า Anti-Aging เป็นต้น
8 สีทอง
ขึ้นชื่อว่าทองคำต้องมาพร้อมกับ ‘ความสง่างามและมีระดับ’ ซึ่งถ้าได้ใช้ร่วมกับสีม่วงหรือสีเขียวจะส่งเสริมให้เป็นสีที่มีพลังทางอารมณ์ยิ่งขึ้น จนถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและผู้ดีเลยทีเดียว (แต่ไม่เหมาะที่จะใช้ร่วมกับสีม่วงในภาพ)
9 สีน้ำตาล
โดยเฉพาะ Earth tone จะเป็นสีที่จะช่วยให้ลูกค้า ‘สบายตาและเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย’ หรือในเวลาเดียวกันจะใช้เพื่อเร่งให้เกิดความเจริญอาหารก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย (เช่น สีของ Chocolate) รวมถึงใครที่มี Target เป็นผู้ชายสีน้ำตาลก็เป็นสีที่น่าสนใจ
10 สีดำ
ถือเป็นสีที่มีความหลากหลายทางด้านอารมณ์สูง ไร้กาลเวลาจะทำให้ดูเป็นสมัยใหม่หรือตกแต่งให้ดูเป็นดั้งเดิมก็ทำได้ หรือจะทำให้เกิดความลุ้นน่าตื่นเต้นก็ยังทำได้ ส่วนมากจะใช้แบบตัดกับสีอื่น (Contrast) ซึ่งส่วนมากสีดำจะช่วยเพิ่ม Drama และความเรียบหรูเข้าไปได้อีกด้วย เช่น ถ้าคิดจะทำให้แพลตฟอร์มระดับ High-End สีดำจะเหมาะสมที่สุด
ทุกสีล้วนมีความหมายและให้การรับรู้ถึงอารมณ์ที่แตกต่างกันไปมากกว่า 80 % ซึ่งมันก็หมายความว่า อย่าลืมที่จะเข้าใจก่อนว่าลูกค้าคุณคือใคร เขาเป็นเป็นหญิงหรือชาย เขาต้องการจะเห็นสารแบบไหน คุณควรต้องเลือกใช้สีแบบไหนให้ตรงกับกลุ่มลูกค้านั้น...
แต่!! อย่าหลงลืมในความจริงที่แต่ละคนชอบสีไม่เหมือนกัน (ต่อให้จะถูกจัดเป็นกลุ่มเดียวกัน) เพราะทุกคนล้วนมีวัฒนธรรมและประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป ดังนั้นข้อมูลที่เราให้ไปถือเป็นแค่ความหมายกว้างๆ เท่านั้น ไม่สามารถเจาะจงว่าใครชอบสีไหน
Tips:
สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ เราแนะนำให้คุณเลือก 1 สี เป็นสีหลัก(หรือสีตั้งต้น) + 2 สี (สีใกล้เคียงกับสีหลัก) + 2 สี (สีที่ตัดกัน) ทั้งหมดนี้จะทำให้งานของคุณไม่หลงทางและมีลูกเล่นมากยิ่งขึ้นค่ะ
Relate Blog
จัดลำดับงานอย่างไรให้ชีวิตไม่ยุ่งเหยิง
CRM คืออะไร? ธุรกิจแบบไหนต้องใช้ระบบ CRM
10 เคล็ดลับ เพิ่มยอดขายช่วงสิ้นปีอย่างมีชั้นเชิง!!!
รู้หรือไม่? ‘การแบ่งระดับสมาชิกของลูกค้า’ ดึงดูดใจได้นานกว่าส่วนลด
Customer Insight ตัวช่วยต่อยอดทางการตลาดที่มีค่ามากที่สุด
เทคนิค “แบ่งกลุ่มลูกค้า” ที่สร้างกำไรไม่รู้จบ
CRM ฉบับ smileSME Smarter goal หัวใจหลักของความสำเร็จที่วัดได้
Surprise ลูกค้าอย่างไรให้ร้อง WOW!
10 ตัวย่อคำศัพท์ใช้บ่อยในแวววงธุรกิจและดิจิทัล